การลดลงของสหภาพโซเวียตและการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในระบอบคอมมิวนิสต์

การสลายตัวของสหภาพโซเวียตเป็นกระบวนการของการสลายตัวภายในสหภาพสาธารณรัฐสังคมนิยมโซเวียต (USSR) ซึ่งเริ่มขึ้นในช่วงปลายทศวรรษที่ 1980 โดยมีความไม่สงบเพิ่มขึ้นในสาธารณรัฐที่เป็นส่วนประกอบต่างๆและสิ้นสุดลงในวันที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2534 เมื่อสูงสุดของสหภาพโซเวียต โหวตให้ยุบความล้มเหลวของการรัฐประหารในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2534 เมื่อรัฐบาลโซเวียตและชนชั้นนำทางทหารพยายามโค่นล้มประธานาธิบดีมิคาอิลกอร์บาชอฟและหยุด "ขบวนพาเหรดแห่งอำนาจอธิปไตย" ทำให้รัฐบาลกลางในมอสโกสูญเสียอิทธิพลส่วนใหญ่และโซเวียตแต่ละคน สาธารณรัฐประกาศเอกราชในวันและเดือนต่อ ๆ ไป การสังหารหมู่จำนวนมากเกิดขึ้นภายใต้ระบอบคอมมิวนิสต์ในศตวรรษที่ 20 การประมาณการการเสียชีวิตแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับคำจำกัดความของการเสียชีวิตที่รวมการประมาณการที่สูงขึ้นของการสังหารหมู่เป็นสาเหตุของการก่ออาชญากรรมต่อพลเรือนโดยรัฐบาลซึ่งรวมถึงการประหารชีวิตการทำลายล้างประชากรด้วยความหิวโหยที่มนุษย์สร้างขึ้นและการเสียชีวิตในระหว่างการถูกบังคับเนรเทศการจำคุกและการใช้แรงงานบังคับ คำศัพท์ที่ใช้ในการกำหนดการสังหารเหล่านี้ ได้แก่ "การฆ่าหมู่" "การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์" "การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์" "คลาสสิก" และคำจำกัดความกว้าง ๆ ของ "การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์" เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2018 อนุสรณ์สถานเหยื่อคอมมิวนิสต์ของเอสโตเนียปี 1940–1991 ได้รับการเปิดตัวในทาลลินน์โดยประธานาธิบดี Kersti Kaljulaid การก่อสร้างอนุสรณ์ได้รับการสนับสนุนทางการเงินจากรัฐและได้รับการจัดการโดยสถาบันความทรงจำทางประวัติศาสตร์ของเอสโตเนีย พิธีเปิดได้รับเลือกให้ตรงกับวันรำลึกถึงผู้ที่ตกเป็นเหยื่อของลัทธิสตาลินและลัทธินาซีของสหภาพยุโรปอย่างเป็นทางการ สารบัญ: การสลายตัวของสหภาพโซเวียตการสังหารหมู่ภายใต้ระบอบคอมมิวนิสต์

Author: Martin Bakers