Your Cart

ราคาสูง ไม่เท่ากับ ราคาแพง

ทุกคน ต้องทำความเข้าใจใหม่

ทักษะ ‘เก่งกว่า’ ไม่เท่ากับ ขายได้

ราคา ‘สูงกว่า’ อันแรกสกิลวาด อันสองสกิลขายและแบรนด์ค่ะ


ก่อนอื่นนะต้องทำความเข้าใจก่อนว่า 'ราคาสูง'กับ'ราคาแพง'ไม่เหมือนกันนั่นก็คือสิ่งที่'ราคาสูง'คือ'ใช้จำนวนเงินเยอะในการซื้อ'แต่'ราคาแพง'คือ'ความรู้สึกที่เกิดหลังจากการซื้อ' เรียบร้อย


คนเราสามารถตั้งราคาสูงได้แต่ถ้าคนรู้สึกว่าราคางานคุณแพงอันนั้นคือเริ่มล้มเหลวในเรื่องการตั้งราคาพูดง่ายๆคือคุณค่าด้านใดด้านหนึ่งของการซื้อขายจะต้องเติมเต็มเรียบร้อยไม่เช่นนั้นคนก็จะรู้สึกว่าสิ่งนั้นราคาแพง


ต่อมาอีกข้อที่คนเข้าใจผิดกันก็คือเรื่องของทักษะในการวาดเวลาที่งานของเราขายได้ราคาถูกมากๆสิ่งหนึ่งที่คนจะทำกันก็คือพยายามไป'อัพทักษะการวาด'


ถามว่ามันผิดหรือไม่ไม่ผิดแต่จริงๆทักษะที่คุณควรจะอัพไม่ใช่ทักษะการวาดแต่เป็น'ทักษะการขาย' 'การปิดการขาย'และ 'branding' แน่นอนว่าคุณภาพสินค้าของคุณต้องดีด้วยนะคะก็คือไม่ใช่ว่าละเลยทักษะขายอะไรไก่เขี่ยก็ได้..


สิ่งที่เขียนช่วงนี้ค่อนข้างสำคัญถ้าใครพลาดไปเสียใจด้วยนะคะเพราะบางโพสต์เราปิดโพสไปเนื่องจากเราไม่ได้อยากให้ทุกคนรู้ความรู้ข้อนี้ทั้งหมดมีหลายเหตุผลนั่นก็คือบางคนใช้ความรู้ของเราเป็นเครื่องมือในการทำร้ายเราทำลายเราเราก็เลยไม่ได้ให้ความรู้ทั้งหมดแต่ถ้าใครอ่านทัน timeline ที่เราเขียนบอกเลยว่าขุดทองได้เลย


ทำไมงานของคนหนึ่งถึงสูงกว่าอีกคนหนึ่ง?


ถ้าคุณอยากงานราคาสูงก่อนอื่นสิ่งที่คุณต้องเลิกก่อนก็คือการคิดว่าจะเอาทักษะอย่างเดียวไปชนกับผู้อื่นคิดว่าตัวเองเก่งแล้วจะขายได้ราคาสูง


No!


ไม่ใช่ค่ะตั้งราคาสูง ประกอบไปด้วยกลไกต่อไปนี้


1.Back story

ไม่ใช่ว่าภาพของคุณมีสตอรี่เป็นภาพนิทานอะไรแบบนี้ภาพของคุณจะเป็นภาพคาแรคเตอร์เดียวก็ได้แต่คุณจะต้องมีเบื้องหลังว่าอะไรที่ทำให้คุณวาดภาพนี้อะไรที่ทำให้คุณสร้างงานชิ้นนี้ขึ้นมาสิ่งนี้สำคัญกว่าเรื่องราวที่อยู่ในภาพและคนซื้อคุณเพราะสิ่งนี้


2.unique selling proposition

สิ่งนี้คือจุดขายจุดที่คุณแตกต่างจากคนอื่นทำไมคนต้องซื้อจากคุณทำไมคนอื่นวาดเหมือนกันแล้วคนต้องมาซื้อสิ่งนี้จากคุณทำไมคุณต้องซื้อภาพวาดจากคุณทั้งๆที่คุณราคาสูงกว่าท้องตลาดมาก?


3.character & persona

เรื่องนี้เราย้ำไปหลายรอบแล้วนั่นก็คือคนไม่ได้ซื้อภาพคนซื้อ'คุณ'

คุณจะต้องมี persona หรือรูปแบบในการแสดงตัวตนที่ค่อนข้างชัดเจนไม่ว่าจะเป็นภาษาพูดภาษาเขียนต้องมีบุคลิกและลักษณะชัดเจนลามไปถึงการแต่งตัววิธีการใช้ชีวิตแนวคิดในการใช้ชีวิตและอื่นๆ


4.scarcity

ต้องทำให้คนรู้สึกว่าเขาพลาดถ้าไม่ซื้อตอนนี้หรือเวลานี้เป็นเวลาที่ดีที่สุดที่จะซื้องานชิ้นนี้แล้วถ้าไม่ใช่ตอนนี้ก็จะไม่ได้สิทธินี้หรือไม่ได้ผลประโยชน์นี้เป็นต้น


5.กลไกราคา pricing mechanism

เรื่องนี้ยาวเดี๋ยวมาต่อวันหลัง