Your Cart

Man's search for meaning

ยังไม่ move on จากหนังสือเล่มนี้

Man's search for meaning


เล่าเรื่องของดร.ฟรังเคิลที่...

เข้าไปในค่ายกักกันเอาท์ซวิตซ์

ค่ายที่มีผู้คุมและถ้าหากทำผิดหรืออ่อนแอลงก็จะต้องถูกรมด้วยแก๊ส

หนังสือเล่มนี้ถูกขายไปกว่า 10 ล้าน copy ทั่วโลกเป็นหนังสือที่มีอิทธิพลเล่มนึงของโลก

...

สิ่งที่ได้เรียนรู้จากหนังสือเล่มนี้

ข้อที่ 1.มนุษย์ที่รู้ว่าตัวเองมีความหมายของชีวิตหรือรู้ว่าตัวเองอยู่ไปทำไมจะสามารถทนได้ต่อทุกสถานการณ์ของชีวิต

...

doctor เขาได้พบกับเพื่อนนักโทษด้วยกันเอาเป็นว่าสมมุติว่าคนนี้ชื่อเฟลิกซ์ เฟลิกซ์ ได้แชร์ความฝันของเขาที่เขามีในปี 1945 เดือนกุมภาพันธ์ มีเสียงนึงในฝันได้บอกเขาว่าเขาสามารถขออะไรได้บางอย่างเขาก็เลยขอถามว่าอยากรู้ว่าเมื่อไหร่เขาจะได้ออกไปจากค่ายกักกันและพ้นทุกข์เสียที เสียงได้ตอบว่าเดือนมีนาคมวันที่ 30เขาได้เชื่อเรื่องนี้เป็นอย่างมากและคิดว่าจะได้ออกจากค่ายกักกันจริงๆในวันที่ 30 เดือนมีนาคมแต่เรื่องกลายเป็นว่าเมื่อใกล้ถึงวันกำหนดการที่เขาเคยฝันถึง...

สงครามกลับมีทีท่าว่าจะเลวร้ายขึ้นเรื่อยๆไม่มีทีท่าเลยว่าความอิสระภาพจะมาถึงในเวลาอันใกล้ ในวันที่ 29 เดือนมีนาคมตัวเขาเองก็ได้ป่วย ในวันที่ 30 มีนาคมที่เขาควรจะได้รับการปล่อยตัวเขาหมดสติไปและวันที่ 31 มีนาคมเขากลับเสียชีวิตไปแล้ว

การที่สถานการณ์เป็นแบบนี้เนื่องจากตัวเขาเองเริ่มหมดความเชื่อว่าตัวเองจะได้ออกไปจากค่ายกักกันเสียทีแล้วเมื่อหมดความหวังและหมดความเชื่อร่างกายก็อ่อนแอลงด้วยทำให้เขาติดโรคแล้วตกเป็นเหยื่อของโรคนั้น เสียงของเขาในหัวไม่ได้พูดผิดนั่นก็คือ felix ได้ออกจากค่ายกักกันจริงๆแต่ในแบบที่ไม่มีชีวิตอยู่แล้ว

.

คริสต์มาสปี 1944 ถึงปีใหม่ปี 1945 ได้มีแพทย์ค้นพบว่าอัตราการตายของนักโทษพุ่งสูงขึ้นอย่างมีนัยยะเมื่อแพทย์ได้ทำการตรวจสอบพบว่านักโทษเหล่านั้นมีความหวังว่าจะได้กลับบ้านแต่พอหมดหวังไปแล้วก็กลายเป็นหมดกำลังใจที่จะมีชีวิตอยู่และเสียชีวิตในที่สุด

ด็อกเตอร์ได้สรุปไว้ว่าความพยายามที่จะคืนความเข้มแข็งภายในของมนุษย์นั่นก็คือการที่เราสามารถที่จะแสดงให้เขาเห็น'อนาคตบางอย่าง'ที่ชัดเจนว่ามันมีความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้นและต้องให้เหตุผลว่าทำไมและมีเป้าหมายในชีวิตเพื่อที่จะทำให้เขาแข็งแกร่งขึ้นและสามารถทนต่อสภาวะที่เกิดขึ้นกับตัวเขาได้

ส่วนผู้ที่ไม่มีความหมายในการมีชีวิตอยู่อีกต่อไปแล้วมีโอกาสจะป่วยจากโรคและก็ตายไปได้ในที่สุด

doctor ได้พูดถึงนักโทษ 2 คนที่กำลังจะพูดเรื่องการฆ่าตัวตายกันอยู่ทั้งสองคนได้กล่าวว่าพวกเขาหมดหวังและไร้ซึ่งความคาดหวังใดๆต่อชีวิตแต่พวกเขาก็ไม่ฆ่าตัวตายเพราะว่าพวกเขาได้ค้นพบความหมายของชีวิต เหตุผลที่จะดำเนินชีวิตต่อไป ชายคนหนึ่งมีลูกของเขารออยู่ที่บ้านที่ต่างประเทศส่วนอีกคนเป็นนักวิทยาศาสตร์ผู้ซึ่งเขียน series หนังสือมากมายซึ่งมีหลายเล่มยังเขียนไม่จบ จึงไม่สามารถที่จะฆ่าตัวตายเพื่อที่จะจบชีวิตตัวเองได้พวกเขารู้ว่าทำไมเขาต้องมีชีวิตอยู่และพร้อมที่จะทนต่อสถานการณ์ต่างๆที่จะเกิดขึ้นในชีวิต

.

ข้อที่ 2

ความรักเป็นพลังอันยิ่งใหญ่และเป็นเป้าหมายที่มากสุดของชีวิตของมนุษย์ที่จะสามารถได้รับสิ่งนี้และค้นหาสิ่งนี้

ในบรรดาความหมายของชีวิตความรักเป็นสิ่งที่มีพลังมากที่สุดตามทฤษฎีของดรฟรังเคิล

ซึ่งความรักนี้มันอาจจะไม่ใช่ความรักแบบหนุ่มสาวอย่างเดียวแต่มันอาจจะเป็นความรักของพ่อที่รักลูกแม่ที่รักลูกและอาจจะเป็นความรักแบบสามีภรรยาหรือคู่ได้ด้วยหรืออาจจะเป็นความรักแบบที่เรามีต่องานอดิเรกหรืองานที่เราทำอยู่ก็ได้

ในขณะที่ผู้คุมพานักโทษไปเพื่อทำงานในทุ่งหิมะที่มีหิมะหนาแน่นนักโทษคนหนึ่งได้พูดกับด็อกเตอร์ว่าถ้าเป็นไปได้ไม่อยากให้ภรรยารับรู้เลยว่าเรากำลังอยู่ตรงนี้และกำลังเผชิญกับสิ่งนี้อยู่ดอกเตอร์ได้ตอบว่าเขาไม่รู้หรอกว่าภรรยาเขายังมีชีวิตอยู่ไหมในขณะที่เขาอยู่ในค่ายกักกันแต่ความทรงจำที่มีต่อเธอรวมทั้งบทสนทนาต่างๆยังคงแจ่มชัดในใจเขาเสมอมา

.

ข้อที่ 3 เมื่อเราไม่สามารถที่จะเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ได้แล้วเราจึงมีความท้าทายในการที่จะเปลี่ยนตัวเองแทน

.

ด็อกเตอร์ได้ทำงานอยู่ในคลินิกเป็นระยะเวลานานเขาได้เจอกับคนไข้หลากหลายรูปแบบและมีคนไข้อยู่คนหนึ่งเอาเป็นว่าสมมุติว่าชื่อปีเตอร์ปีเตอร์ได้คร่ำครวญถึงภรรยาที่จากไปของเขาและไม่สามารถที่จะเดินหน้าต่อในชีวิตได้จึงมาปรึกษาด็อกเตอร์ทั้งๆที่ภรรยาเขาตายไป 2 ปีแล้ว

ด็อกเตอร์จึงถามเขาว่าถ้าหากภรรยาเขาเป็นฝ่ายตายแล้วตัวเขาเองเป็นฝ่ายอยู่จะเกิดอะไรขึ้น เขาเลยตอบว่านี่เป็นสิ่งที่เลวร้ายมากเธอจะต้องเจ็บปวด แล้วด็อกเตอร์ก็เลยบอกว่าเห็นไหมปีเตอร์คุณได้แบ่งปันความเจ็บปวดของภรรยาที่เธอจะต้องรู้สึกแล้วเขาก็ไม่พูดอะไรอีกจับมือกับปีเตอร์แล้วก็ออกจากออฟฟิศไป

ความเจ็บปวดจะหยุดเจ็บปวดก็ต่อเมื่อมันได้ค้นหาความหมายความหมายของการเสียสละdoctor ได้กล่าวว่านี่ไม่ใช่การรักษาเนื่องจากความสิ้นหวังของชายคนนี้ไม่ได้เกิดขึ้นจากโรคและสิ่งที่ 2 ก็คือเขาไม่สามารถที่จะเปลี่ยนแปลงโชคชะตาของชายคนนี้ได้

ดร.บอกว่าเขาไม่สามารถที่จะชุบชีวิตภรรยาของชายคนนี้ได้แต่สามารถที่จะปรับเปลี่ยนทัศนคติของปีเตอร์ได้ในโชคชะตาที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ของเขาและเจอความหมายภายในความเจ็บปวดของเขา

สุดท้ายอยากฝากไว้ว่ามนุษย์ทุกคนไม่สามารถที่จะหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับความเจ็บปวดได้แต่เราสามารถที่จะเรียนรู้ในการจำกัดวงของมันได้และพยายามหาความหมายที่มีอยู่ในสิ่งนี้แล้วก็ก้าวไปข้างหน้าให้ได้

.

การที่สถานการณ์เป็นแบบนี้เนื่องจากตัวเขาเองเริ่มหมดความเชื่อว่าตัวเองจะได้ออกไปจากค่ายกักกันเสียทีแล้วเมื่อหมดความหวังและหมดความเชื่อร่างกายก็อ่อนแอลงด้วยทำให้เขาติดโรคแล้วตกเป็นเหยื่อของโรคนั้น เสียงของเขาในหัวไม่ได้พูดผิดนั่นก็คือ felix ได้ออกจากค่ายกักกันจริงๆแต่ในแบบที่ไม่มีชีวิตอยู่แล้ว

.

คริสต์มาสปี 1944 ถึงปีใหม่ปี 1945 ได้มีแพทย์ค้นพบว่าอัตราการตายของนักโทษพุ่งสูงขึ้นอย่างมีนัยยะเมื่อแพทย์ได้ทำการตรวจสอบพบว่านักโทษเหล่านั้นมีความหวังว่าจะได้กลับบ้านแต่พอหมดหวังไปแล้วก็กลายเป็นหมดกำลังใจที่จะมีชีวิตอยู่และเสียชีวิตในที่สุด


เล่าเรื่องของดร.ฟรังเคิลที่...

เข้าไปในค่ายกักกันเอาท์ซวิตซ์

ค่ายที่มีผู้คุมและถ้าหากทำผิดหรืออ่อนแอลงก็จะต้องถูกรมด้วยแก๊ส

หนังสือเล่มนี้ถูกขายไปกว่า 10 ล้าน copy ทั่วโลกเป็นหนังสือที่มีอิทธิพลเล่มนึงของโลก

...

สิ่งที่ได้เรียนรู้จากหนังสือเล่มนี้

ข้อที่ 1.มนุษย์ที่รู้ว่าตัวเองมีความหมายของชีวิตหรือรู้ว่าตัวเองอยู่ไปทำไมจะสามารถทนได้ต่อทุกสถานการณ์ของชีวิต

...

doctor เขาได้พบกับเพื่อนนักโทษด้วยกันเอาเป็นว่าสมมุติว่าคนนี้ชื่อเฟลิกซ์ เฟลิกซ์ ได้แชร์ความฝันของเขาที่เขามีในปี 1945 เดือนกุมภาพันธ์ มีเสียงนึงในฝันได้บอกเขาว่าเขาสามารถขออะไรได้บางอย่างเขาก็เลยขอถามว่าอยากรู้ว่าเมื่อไหร่เขาจะได้ออกไปจากค่ายกักกันและพ้นทุกข์เสียที เสียงได้ตอบว่าเดือนมีนาคมวันที่ 30เขาได้เชื่อเรื่องนี้เป็นอย่างมากและคิดว่าจะได้ออกจากค่ายกักกันจริงๆในวันที่ 30 เดือนมีนาคมแต่เรื่องกลายเป็นว่าเมื่อใกล้ถึงวันกำหนดการที่เขาเคยฝันถึง...

ด็อกเตอร์ได้สรุปไว้ว่าความพยายามที่จะคืนความเข้มแข็งภายในของมนุษย์นั่นก็คือการที่เราสามารถที่จะแสดงให้เขาเห็น'อนาคตบางอย่าง'ที่ชัดเจนว่ามันมีความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้นและต้องให้เหตุผลว่าทำไมและมีเป้าหมายในชีวิตเพื่อที่จะทำให้เขาแข็งแกร่งขึ้นและสามารถทนต่อสภาวะที่เกิดขึ้นกับตัวเขาได้

ส่วนผู้ที่ไม่มีความหมายในการมีชีวิตอยู่อีกต่อไปแล้วมีโอกาสจะป่วยจากโรคและก็ตายไปได้ในที่สุด

doctor ได้พูดถึงนักโทษ 2 คนที่กำลังจะพูดเรื่องการฆ่าตัวตายกันอยู่ทั้งสองคนได้กล่าวว่าพวกเขาหมดหวังและไร้ซึ่งความคาดหวังใดๆต่อชีวิตแต่พวกเขาก็ไม่ฆ่าตัวตายเพราะว่าพวกเขาได้ค้นพบความหมายของชีวิต เหตุผลที่จะดำเนินชีวิตต่อไป ชายคนหนึ่งมีลูกของเขารออยู่ที่บ้านที่ต่างประเทศส่วนอีกคนเป็นนักวิทยาศาสตร์ผู้ซึ่งเขียน series หนังสือมากมายซึ่งมีหลายเล่มยังเขียนไม่จบ จึงไม่สามารถที่จะฆ่าตัวตายเพื่อที่จะจบชีวิตตัวเองได้พวกเขารู้ว่าทำไมเขาต้องมีชีวิตอยู่และพร้อมที่จะทนต่อสถานการณ์ต่างๆที่จะเกิดขึ้นในชีวิต

.

ข้อที่ 2

ความรักเป็นพลังอันยิ่งใหญ่และเป็นเป้าหมายที่มากสุดของชีวิตของมนุษย์ที่จะสามารถได้รับสิ่งนี้และค้นหาสิ่งนี้

ในบรรดาความหมายของชีวิตความรักเป็นสิ่งที่มีพลังมากที่สุดตามทฤษฎีของดรฟรังเคิล

ซึ่งความรักนี้มันอาจจะไม่ใช่ความรักแบบหนุ่มสาวอย่างเดียวแต่มันอาจจะเป็นความรักของพ่อที่รักลูกแม่ที่รักลูกและอาจจะเป็นความรักแบบสามีภรรยาหรือคู่ได้ด้วยหรืออาจจะเป็นความรักแบบที่เรามีต่องานอดิเรกหรืองานที่เราทำอยู่ก็ได้

ในขณะที่ผู้คุมพานักโทษไปเพื่อทำงานในทุ่งหิมะที่มีหิมะหนาแน่นนักโทษคนหนึ่งได้พูดกับด็อกเตอร์ว่าถ้าเป็นไปได้ไม่อยากให้ภรรยารับรู้เลยว่าเรากำลังอยู่ตรงนี้และกำลังเผชิญกับสิ่งนี้อยู่ดอกเตอร์ได้ตอบว่าเขาไม่รู้หรอกว่าภรรยาเขายังมีชีวิตอยู่ไหมในขณะที่เขาอยู่ในค่ายกักกันแต่ความทรงจำที่มีต่อเธอรวมทั้งบทสนทนาต่างๆยังคงแจ่มชัดในใจเขาเสมอมา

.

ข้อที่ 3 เมื่อเราไม่สามารถที่จะเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ได้แล้วเราจึงมีความท้าทายในการที่จะเปลี่ยนตัวเองแทน

.

ด็อกเตอร์ได้ทำงานอยู่ในคลินิกเป็นระยะเวลานานเขาได้เจอกับคนไข้หลากหลายรูปแบบและมีคนไข้อยู่คนหนึ่งเอาเป็นว่าสมมุติว่าชื่อปีเตอร์ปีเตอร์ได้คร่ำครวญถึงภรรยาที่จากไปของเขาและไม่สามารถที่จะเดินหน้าต่อในชีวิตได้จึงมาปรึกษาด็อกเตอร์ทั้งๆที่ภรรยาเขาตายไป 2 ปีแล้ว

ด็อกเตอร์จึงถามเขาว่าถ้าหากภรรยาเขาเป็นฝ่ายตายแล้วตัวเขาเองเป็นฝ่ายอยู่จะเกิดอะไรขึ้น เขาเลยตอบว่านี่เป็นสิ่งที่เลวร้ายมากเธอจะต้องเจ็บปวด แล้วด็อกเตอร์ก็เลยบอกว่าเห็นไหมปีเตอร์คุณได้แบ่งปันความเจ็บปวดของภรรยาที่เธอจะต้องรู้สึกแล้วเขาก็ไม่พูดอะไรอีกจับมือกับปีเตอร์แล้วก็ออกจากออฟฟิศไป

ความเจ็บปวดจะหยุดเจ็บปวดก็ต่อเมื่อมันได้ค้นหาความหมายความหมายของการเสียสละdoctor ได้กล่าวว่านี่ไม่ใช่การรักษาเนื่องจากความสิ้นหวังของชายคนนี้ไม่ได้เกิดขึ้นจากโรคและสิ่งที่ 2 ก็คือเขาไม่สามารถที่จะเปลี่ยนแปลงโชคชะตาของชายคนนี้ได้

ดร.บอกว่าเขาไม่สามารถที่จะชุบชีวิตภรรยาของชายคนนี้ได้แต่สามารถที่จะปรับเปลี่ยนทัศนคติของปีเตอร์ได้ในโชคชะตาที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ของเขาและเจอความหมายภายในความเจ็บปวดของเขา

สุดท้ายอยากฝากไว้ว่ามนุษย์ทุกคนไม่สามารถที่จะหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับความเจ็บปวดได้แต่เราสามารถที่จะเรียนรู้ในการจำกัดวงของมันได้และพยายามหาความหมายที่มีอยู่ในสิ่งนี้แล้วก็ก้าวไปข้างหน้าให้ได้

.

:)